Tuesday, September 2, 2008

อีืกหน่อยเราก็ตายจากกัน......แล้วนะ - ข้อคิดดี ๆ จากน้าเน๊ก เกตุเสพย์สวัสดิ์


คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี 1 ปี เท่ากับ 365 วัน แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม......... ไม่เลว 3,120 สัปดาห์ อุแม่เจ้า........แสดงว่า
เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก...
เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวตาย และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมาก หากคำนวนในเชิงตัวเลข ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม
สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามัน น้อยเกินไปจริง ๆ และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ
ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ! อุแม่เจ้าเทค 2
คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง สามพันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!! คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้าง ๆ เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้ นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่เราไม่ค่อยได้มองมัน
เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 17 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน และผ่านคืนวันเสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น ...... คำนวณเองบ้างซิว้อยย.....
เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา ( ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่ ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะทำยังไงกับมันดี ..... แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อ นั่งเอาหัวตากแอร์ไปวัน ๆ ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้ เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า ' เงินเดือน '
บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ ไม่ก็เห็นแค่ว่าเพื่อนเรียน เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่า กูจะเป็นอะไรดี
บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า
และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม ' ฆ่าเวลา ' ชีวิตมันว่างจัด ขนาดต้องฆ่าเวลากันเลย บอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ ลองคิดแบบนี้บ้าง ใช่แล้ว .... เราจะเกิดความเสียดาย
เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย แต่ให้รีบทำทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้ และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ... มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก ตามความฝันของเราไปสุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง
รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ... เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ ) ตายแล้ว ใช้เวลา ( ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้ กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรา นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล ....... คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน......... หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ...... แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วัน ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีด และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอก ว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ
อ้าว.... รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก รีบแยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ เดี๋ยวตายซะก่อน .... เสียดายแย่

Monday, September 1, 2008

วิธีแก้ง่วง....555+++


1. วิธี standard method กินกาแฟ แต่ท่านที่ต้องการเห็นผลทันที ควรเอากาแฟหยอดตาหายง่วงปลิดทิ้ง

2. apply มาหน่อย กินยาบ้า สนใจผลิตภัณฑ์นี้ติดต่อบังรอน มี Promotion ใหม่ ซื้อยาบ้า 1 เม็ดแถมมีดปลายแหลม 1 ด้าม เพื่อสะดวกแก่การฟุ้งซ่าน ถ้าโชคดีมีสิทธิ์ขึ้นข่าวหน้า 1 เป็นคนดังชั่วข้ามคืน

3. อมเปลือกทุเรียนไว้ทั้งเปลือก ห้ามคายไม่งั้นเดี๋ยวง่วง ผู้ที่ไม่ชอบทุเรียน อนุญาตให้อมครกแทนได้ แต่ไร้รสชาด

4. ง่วงแล้วหยิกตัวเองให้ตื่น ถ้าไม่หาย เปลี่ยนไปหยิกคนข้างๆ แล้วคนข้างๆ จะประเคนลำแข้งให้หายง่วงได้

5. หาเรื่องเครียดเครียดใส่ตัว เช่น ใช้เงินทั้งเดือนให้หมดภายใน 1 วัน ไปมีเรื่องกับจิ๊กโก๋ปากซอยเอาให้มันอาฆาตเล่น หรือไปหาเรื่องให้ตัวเอง ติดเอดส์ เป็นต้น จะทำให้ตาค้างตลอดคืน

6. อย่าอยู่เงียบๆ หรือฟังเพลงเบาๆ ต้องหาสถานที่หนวกหูตอนดีกดีก เช่น ถนนหรือทางด่วนที่มันชอบซิ่งรถ บ้านที่ผัวเมียชอบทะเลาะกันดึกดึก RCA ร้านไหนก็ได้ หอบงานไปทำบริเวณนั้นทำให้ไม่หลับ วิธีนี้เหมาะกับ คนจิตแข็งมีสมาธิดีเท่านั้น

7. อย่าทำงาน หรืออ่านหนังสือบนเตียงนอน หลับแหงแหง ให้ทำใต้เตียงแทน อึดอัดหน่อย ต้องทน

8. นอนกลางวัน สะสมก่อน ถ้าเจ้านายถามก็บอกว่าเก็บแรงไว้ทำงาน ให้เจ้านายตอนกลางคืน เจ้านายจะซาบซึ้งมาก

9. ต้องทำตาให้ค้าง สมัยก่อนใช้ไม้หนีบแต่สามารถใช้กาวตราช้างหรือไปกราบไหว้ผีบ้านผีเรือนให้มาปรากฎตัวแทนได้ จะทำให้ตาค้างได้ดีมากเหมือนกัน

10.อย่าขยันทำการบ้านนะ จะเพลียแย่ ทำให้ง่วงได้ (วิธีนี้เฉพาะคนมีครอบครัว)

**สำหรับท่านที่ทำครบทุกข้อแล้วยังไม่สามารถหาทางแก้ง่วงได้ เราขอแนะนำท่านว่าให้ทำทั้งหมดใหม่อีกรอบ **

Sunday, August 31, 2008

""ภาษาวิบัติ""

ฟังเขาอ่านกลอนกันทุกวันนี้
แล้วอยากหนีไปนอนตายก่อนเพื่อน
อักขระวิบัติสัมผัสเลือน
ดูเสมือนไร้ความรู้ตามกัน
ฉันอ่าน"ชั้น" สรรหาเอามาอ่าน
คำว่าท่านก็เหวี่ยงเป็นเสียง"ทั่น"
ไหมอ่าน"มั๊ย" ไม่คิดจิตผูกพัน
อารมณ์ผันฟุ้งเพลินจนเกินความ
ไม้อ่าน"ม้าย" กลายกลับเปลี่ยนศัพท์แสง
ได้ก็แผลงเป็น"ด้าย" คล้ายหยาบหยาม
ใต้อ่าน"ต้าย" กลายหมดไม่งดงาม
น้ำอ่าน"น้าม" น่าคิดเสียงผิดไป
เจ้าอ่าน"จ้าว" ร้าวฉานสถานหนัก
เขาก็ยักอ่าน"เค้า" เศร้าไฉน
เช้าอ่าน"ช้าว" ร้าวรวดปวดหัวใจ
เท้าก็ไพล่เป็น"ท้าว" ก้าวตามมา
เก้าอ่าน"ก้าว" ยาวออกไปนอกเสียง
เปล่าก็เบื่ยงเป็น"ปล่าว" ใช่กล่าวหา
เล้าอ่าน"ล้าว" ยาวข้ามไปสามวา
เหลาท่านว่า"หลาว" เลยเชยกันจริง
เต้าอ่าน"ต้าว" ราวกับศัพท์วิตถาร
ร้องไห้อ่าน"ร้องห้าย" ทั้งชายหญิง
หรืออ่าน"รึ" ครึคระไม่ประวิง
ปล่อยใจดิ่งดักดานจึงทานทัด
ทั้งร้อยกรองร้อยแก้วต้องแน่วแน่
อย่าเอาแต่ตามใจให้วิบัติ
ขอวอนวานอ่านกันให้มันชัด
เพื่อช่ายพัฒนาภาษาไทย

Saturday, August 30, 2008

ติดล้อปุ๊บ มีแฟนปั๊บ


หลังจากได้ตัว "อะราวา" เต่าพิการเพศเมียพันธุ์แอฟริกา วัย 10 ปี หนัก 25 กิโลกรัม มาได้ไม่กี่เดือน
สวนสัตว์เยรูซาเลม ไบบลิเคิล ในนครเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล ก็คิดหาทางช่วยมันได้สำเร็จ
อะราวาเป็นอัมพาต 2 ขาหลัง แต่ก่อนเดินไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงติดแผ่นเหล็กติดล้อให้ 2 ล้อมัดไว้กับกระดองเพื่อให้มันเคลื่อนที่ได้ในหลายทิศทาง ...ตอนนี้เดินได้แล้ว แถมยังหาคู่ได้อีกด้วย
เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ เล่าว่า เจ้าอะราวากำลังเลือกคู่และมีคู่แล้ว เป็นเต่าที่อยู่ในสวนสัตว์มาก่อน
...เสน่ห์ติดปลายล้อเลยล่ะ

ปรมาจารย์เหมียวโยด้า


เจ้าเหมียวเพศผู้ที่มีใบหูข้างละ 2 หู โดยอีก 2 หูที่แถมมา รูปทรงเรียวแหลม เหมือนตัวละคร "โยด้า" ในหนังสตาร์ วอร์
นางวาเลอรีและนายเท็ด ร็อก สามีภรรยาชาวอเมริกันในเมืองชิคาโก จึงตั้งชื่อให้ว่า โยด้า
สามีภรรยาได้เจ้าเหมียวมาจากบาร์แห่งหนึ่งใกล้บ้าน พอมาถึงบ้านมันประจบเจ้านายใหม่ทันที ด้วยการปีนขึ้นไปที่คอและหลับอยู่ตรงไหล่ของนายเท็ด ครอบครัวเลี้ยงไว้ในบ้าน ทั้งฝังชิพไว้ด้วยเผื่อมันหลง หรือถูกลักพาตัว
ตอนนี้มันอายุ 2 ปีแล้ว มีนิสัยคล้ายตัวละครโยด้า คือช่างสังเกต ร้องเหมียวเสียงเบาๆ และไม่ร้องบ่อย ดูไม่กลัวอะไรเลย และเข้าสังคมได้ดี
...ไม่รู้มี "พลัง" แบบอาจารย์โยด้าด้วยรึเปล่านะ

Friday, August 29, 2008

คิดดี คิดบวก สบายใจ ทำให้ห่างไกลมะเร็ง


วารสารทางวิชาการ “ชีวเวช” ของอังกฤษ รายงานว่า นักวิจัยยิวศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ทำจิตใจ ให้สบาย จะได้บุญคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากโรคมะเร็งทรวงอกได้ แต่ขณะเดียวกันผู้ที่มีความ ทุกข์ใจ หรือโศกเศร้าจากเหตุร้ายต่างๆ อย่างเช่น ตกพุ่มม่าย ก็อาจจะล่อแหลมกับโรคหนักขึ้น
คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเบนกูเรียนของอิสราเอล ได้ศึกษากับกลุ่มสตรีจำนวนไม่ต่ำกว่า 600 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ถูกวินิจฉัยโรคว่า เป็นโรคมะเร็งทรวงอกอยู่ 255 คน ด้วยการสัมภาษณ์ ถึงประสบการณ์ชีวิต และความรู้สึกทุกข์สุขในใจของ แต่ละคน
รายงานผลการศึกษาสรุปว่า ผู้หญิงที่มีทัศนคติต่อชีวิตดี ดูเหมือนจะได้บุญช่วยคุ้มครองให้แคล้ว คลาดจากโรคมะเร็งทรวงอกได้ถึง 1 ใน 4 แต่ขณะเดียวกัน คนที่ทุกข์ใจ หรือมีความโศกเศร้าจากเหตุร้าย อย่างเช่น สูญเสียพ่อแม่หรือคู่ครอง ก็ล่อแหลมกับโรคมากเกินกว่าร้อยละ 60 ดร.โรนิต เปเลด หัวหน้า คณะนักวิจัย ระบุว่า สตรีผู้ที่ต้องผจญกับเรื่องร้ายๆ ควรจะถือว่าเป็นกลุ่มที่อยู่ในภาวะเสี่ยงกับโรคเลยด้วย.

ที่มา นสพ.ไทยรัฐ

บัญญัติ 10 ประการ - เล่นเน็ตปลอดภัย


1. ระมัดระวังเรื่องการให้ข้อมูลส่วนตัวบนเน็ต เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ชื่อหรือสถานที่ตั้งโรงเรียน ที่ทำงานพ่อแม่ เบอร์โทรของพ่อแม่ หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นใดที่ผู้ไม่ประสงค์ดี อาจนำมาใช้ในการติดต่อหนูหรือครอบครัวของหนู
2. ไม่ส่งรูปภาพส่วนตัวให้เพื่อนออนไลน์ รวมถึงจะไม่โพสต์รูปภาพส่วนตัวบนเว็บไซต์ เพราะภาพของหนูอาจถูกนำไปตัดต่อหรือใช้เพื่อการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือเป็นอันตราย
3. ไม่นัดพบกับเพื่อนออนไลน์โดยเด็ดขาด
4. ไม่โต้ตอบกับบุคคลหรือข้อความที่ทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ
5. รีบบอกพ่อแม่หรือครูทันที หากพบเห็นข้อความหรือรูปภาพที่หยาบคาย ไม่เหมาะสม ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจทั้งหลายทั้งปวง
6. ขออนุญาตพ่อแม่ก่อนดาวน์โหลดหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ใดๆ ลงบนเครื่อง
7. ไม่บอกรหัสผ่านกับใครแม้แต่เพื่อนสนิท ยกเว้นพ่อแม่เท่านั้น
8. พูดคุยกับพ่อแม่เพื่อร่วมกันกำหนดกฎกติกาการออนไลน์ของหนู เป็นต้นว่า จำนวนชั่วโมงการใช้งานต่อวัน กิจกรรมออนไลน์ที่ทำได้และทำไม่ได้ พื้นที่ต้องห้ามบนเน็ต ฯลฯ และหนูจะ ไม่พยายามฝ่าฝืนกฎกติกานี้ นอกจากจะได้รับอนุญาต
9. จะเป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ดี จะหยุดคิดก่อนเสมอว่าสิ่งที่หนูจะทำนั้นไม่เป็นการผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม และไม่เป็นอันตรายต่อตัวหนูเองหรือผู้อื่น
10. ช่วยสอนพ่อแม่ให้เข้าใจวิธีการใช้คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อครอบครัวของเราจะได้มีเวลาเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข